“การดำรงชีวิตอิสระ”
คำๆ นี้หลายๆ ท่านอาจจะไม่เคยได้ยิน
แต่พวกเรา กลุ่มคนที่มีปัญหาในเรื่องก
โดยเฉพาะเรื่องการเคลื่อนไห
เทียบกันซ้ายและขวา 5 วันที่ผมไปใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น
ผมอยากไปไหน ผมไปเลย ไปได้เลย
โดยไม่ต้องมานั่งคิด นั่งห่วงว่า “โน้นจะไปได้มั้ย นี่จะได้รึเปล่า?”
ผมหมายถึงอย่างนั้นจริงๆ ครับ
ผมอยากจะเผ่นขึ้นรถเมล์ก็ทำ
ไม่ว่าจะเป็นรถเมล์ในเมืองใ
ที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงของ
ก็ยังสามารถทำได้อย่างสบายๆ
คิดนึกสภาพว่า ผมสามารถขึ้นไปเที่ยวบนภูเข
สถานี#4 ที่ระดับความสูงที่ 2020 ฟุต ได้อย่างง่ายๆ (อย่างที่ทุกๆ คนทำ)
ผมรู้สึกมีความสุข สนุกกับมันมาก …
บอกเลยว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆ ครับ
และตลอดเวลาที่ผมเดินทางโดย
ผมมักจะเห็นคนที่มีปัญหาทาง
ย้ำ “ไปไหนมาไหน ได้ด้วยตัวเอง” ทำสิ่งต่างๆ ใช้ชีวิตอิสระและอย่างมีควา
ที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนต่อไหน
นี่เป็นจุดมุ่งหมายของคำว่า
พวกเราไม่ต้องการให้ใครมาคอ
สิ่งเดียวที่เราต้องการเป็น
สามารถที่จะใช้ชีวิตได้ด้วย
และสามารถทำได้อย่างอิสระ
เชื่อผมสิ
ในความเป็นจริง แล้ว ไม่มีใครจะมาคอยช่วยคนอื่นๆ
คิดแบบผมไหมครับ?
กลับมามองที่บ้านเรา
ถึงป่านนี้กรุงเทพฯ ก็ยังไม่สามารถดำรงชีวิตอย่
“มนุษย์ล้อ” อย่างผมจะสามารถไปไหนมาไหนไ
ในขณะที่รถเมล์ชานต่ำก็ยังอ
รถไฟต่างๆ รวมถึงสายหลากสีที่กำลังผุด
(แต่จากที่ผมเห็น ก็ดูเหมือนจะใช้แนวคิดและกฏ
รถไฟฟ้าบอกว่า มีปัญหาเรื่องการเวรคืนที่ด
ผู้บริหารระดับสูง รถไฟหลากสีบอกกับผมว่า
“เราเตรียมสิ่งอำนวยความสะด
ผมไม่คิดว่า ผมจะได้ยินคำๆ นี้เลยจริงๆ ครับ
อย่างที่เราเห็น ณ ปัจจุบันนั้น มีปัญหาทุกหนทุกแห่ง
ซึ่งก็ยังไม่เห็นจะ “พร้อมแล้ว” ซักเท่าไหร่เลยครับ