จดหมายเปิดผนึกถึงคุณหลวงนิติพงษ์ “เรื่องที่จอดรถคนพิการ มันไม่ขำอย่างที่คุณหลวงเข้าใจ”

วันที่ ๖ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

กราบเรียนคุณหลวงนิติพงษ์ที่เคารพ

ก่อนอื่นกระผมขอแนะนำตัวสักหน่อย กระผมเป็นคนที่ทำงานในภาคเครือข่ายภาคประชาชน
ที่คอยช่วยเหลือสังคมมาหลายต่อหลายปี กระผมเป็นคนที่ทำงานหลักในเรื่อง ‘การเข้าถึงและรนรงค์เพื่อสิทธิคนพิการ’ และโดยเฉพาะเรื่อง ‘ที่จอดรถคนพิการ’ นี้ขอรับ

เหตุจากเมื่อเช้าวานนี้ กระผมตื่นขึ้นมาก็ได้รับทราบข่าวจากเพื่อนบ้านข้างเคียงได้กรุณาส่งเรื่องต่อมาให้
ก็เรื่องที่คุณหลวงได้เขียนถึงตัวเองที่ไปจอดที่รถคนพิการที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั่นล่ะขอรับ

พอผมทราบเรื่องก็ได้รีบเข้าไปอ่านดูรายละเอียด อ่านทวนแล้วทวนอีกหลายต่อหลายรอบ
และยังได้อ่านถึงความเห็นของเพื่อนบ้านของคุณหลวงที่ช่วยกันตอบไปมาด้วยขอรับ
ยอมรับว่า กระผมทั้งแปลกใจและตกใจ กับข้อความและความเห็นต่างๆ ที่ทุกคนเขียน
ก็มัวแต่คิดๆ อยู่ว่า กระผมจะกราบเรียนคุณหลวงแบบไหนดี พอตกบ่ายก็เห็นคุณหลวงได้ลบข้อความทิ้งไปเสียแล้ว
และกระผมก็ได้เห็นคุณหลวงเขียนข้อความเพื่อขอโทษและขอรับผิดชอบในเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ไอ้กระผมเองก็มีงานมากมายวุ่นวายทั้งวัน เพิ่งได้มาเริ่มเขียนจดหมายถึงคุณหลวงก็ร่วมดึกดื่นเที่ยงคืนนี่ล่ะขอรับ
เอาล่ะขอรับ ถึงแม้เรื่องนี้ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว คุณหลวงเองก็ได้ออกมาขอโทษซึ่งก็ถือว่าจบด้วยดีแล้ว
และจากที่ผมเองไล่ทวนอ่านที่คุณหลวงได้เขียนไว้ก็มั่นใจว่า คุณหลวงเพียงพลั้งเผลอไป ไม่ได้ตั้งใจ
แต่ในฐานะที่คุณหลวงเองก็เป็นบุคคลสาธารณะ มีคนรู้จักทั่วทั้งสยามประเทศ ก็ยิ่งต้องคุยให้รับทราบถึงปัญหาให้อย่างถ่องแท้
กระผมขอความกรุณาขอเวลาคุณหลวงเพื่อชี้แจงให้รับทราบ ถึงปัญหาที่จอดรถคนพิการที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ตามนี้ขอรับ

ปัญหาที่จอดรถคนพิการ

เป็นปัญหาประเด็นสังคม ปัญหานี้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดคุณภาพสังคมบ้านเมืองนั้นๆ
มันก็เกิดขึ้นทุกที่ทุกประเทศล่ะขอรับ น้อย-มากก็ตามแต่คุณภาพของคนในประเทศนั้นๆ
ส่วนประเทศของเรานี่มีปัญหาเรื่องนี้หนักมากขอรับ

ขอเล่าให้คุณหลวงฟังว่า ในภาพรวมกฏหมายบ้านเราดีเพียงพอแล้วขอรับ
กฏหมายคนพิการกำหนดไว้ว่า คนที่มีสิทธิจอด คือ “คนพิการและผู้สูงอายุ” เพียงแต่ไม่ได้กำหนดรายละเอียดอื่นๆ ไว้
ปัญหาใหญ่สุด คือ การไม่ปฏิบัติตาม, การหาช่องโหว่ของกฏหมาย รวมถึงไม่มีบังคับใช้กฏหมาย ซักเท่าไหร่เลย
ก็คงเหมือนกับปัญหาอื่นๆ ตามที่เราทราบกันดีนะขอรับ

กระผมทำงานเรื่องที่จอดรถคนพิการอย่างเข้มข้นมา ๔ ปีได้ กระผมสามารถบอกคุณหลวงได้อย่างชัดเจนว่า
ปัญหาที่จอดรถคนพิการนั้น แยกเป็นส่วนๆ ตามสัดส่วนปัญหา ความมากน้อยดังนี้ขอรับ

  1. คนที่ไม่จำเป็น – ไปแย่งจอดที่ของคนพิการเขา
    ปัญหานี้มากสุด ประเมินจากข้อมูลในมือคิดเป็นตัวเลขมากกว่าร้อยละ ๘๐ ของปัญหาทั้งหมดเลยทีเดียวขอรับ
    และจำนวนที่จอดรถคนพิการนั้นก็มีอยู่เพียงน้อยนิด พอถูกแย่งจอดเสีย ความเดือดร้อนก็เลยมีมาก
    ก็อย่างที่คุณหลวงได้เผลอกระทำไปแล้วนี่ล่ะขอรับ คุณหลวงและเพื่อนบ้านคุณหลวงต้องทราบว่า
    คนที่มีร่างกายที่มีปัญหา ต้องการพื้นที่จอดพิเศษนั้นเดือดร้อนมากขนาดไหน
    ความพิการของคุณหลวงเองก็ไม่ได้จำเป็นต้องใช้ที่จอดรถคนพิการสักนิดเดียวนะขอรับ
    แหละที่สำคัญหากจะว่าไป คุณหลวงเองก็ร่ำรวยมีฐานะไม่ได้ลำบากอะไร บัตรเครดิตที่อยู่ในกระเป๋าสะตางค์ก็คงมีหลายใบ
    ใช้สิทธิจอดพื้นที่จอดที่เตรียมไว้พิเศษสำหรับสมาชิกก็ได้ล่ะกระมัง
    ประเทศเราตอนนี้ก็พากันหยวนไปหมด แบบนี้ไม่ดีแน่ขอรับ
    สำนึกสาธารณะยิ่งมีมากประเทศชาติของเราก็ยิ่งเจริญมากนะขอรับ
    .
  2. เจ้าของสถานที่ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย
    1. การเตรียมจำนวนคนพิการให้เพียงพอตามที่กฏหมายกำหนด
      จำนวนที่จอดรถคนพิการในกฏหมายกำหนดไว้ ๑๐๐:๑ คันขอรับ
      ไอ้ ๑๐๐ ต่อ ๑ เนี๊ยะ มันหมายถึง “ที่จอดรถ ๑๐๐ คัน ต้องมีที่จอดรถคนพิการ ๑ คัน” ขอรับ (รายละเอียดเพิ่มเติมขอให้อ่านที่กฏกระทรวงฯ)
      นี่คือ สิ่งที่เจ้าของสถานที่ต้องปฏิบัติตาม คุณหลวงทราบมั้ยขอรับ ห้างสรรพสินค้าบ้านเรานั้น
      “มีน้อยนักที่จะทำตามกฏหมาย” นั่นคือ จำนวนที่จอดรถคนพิการมีไม่ครบนั่นเองขอรับ
    2. การจัดพื้นที่จอดรถคนพิการให้ถูกต้องตามคุณลักษณะที่กฏหมายกำหนด
      ปัญหาก็เหมือนๆ กันกับข้อ ๑ นั่นแหละครับคุณหลวง มีห้างน้อยนักที่จะทำตามกฏหมาย
      แทบทุกที่ทำไม่ถูกต้องทั้งๆ ที่เรามีกฏหมายกำหนดไว้ชัดเจนแล้ว
      แหมมันอดไม่ได้ อยากเล่าให้คุณหลวงฟังขอรับ
      “ห้างบางห้างทำที่จอดรถคนพิการความกว้างไม่ต่างกับที่จอดรถทั่วไป
      แต่ที่จอดรถคนรวย ที่จอดรถซูเปอร์คาร์ ที่อยู่ใกล้ๆ กัน ดันทำซะกว้างกว่า หรูกว่า บานเบอะ”
      คุณหลวงไม่ต้องถามกระผมว่าห้างไหนขอรับ ผมไม่บอกหรอก
      แต่ใบ้ให้หน่อยเดียวก็ได้ขอรับ คุณหลวงเดินไปอีกหน่อย ข้ามวัดไปอีกฝั่งก็จะถึงแล้วขอรับ
    3. การให้บริการและการดูแล
      ส่วนนี้เกี่ยวของกับเจ้าของสถานที่ เช่น ห้างที่คุณหลวงไปทำธุระนั่นล่ะขอรับ
      ห้างก็จ้างทีมรักษาความปลอดภัยมา แล้วไม่มีข้อกำหนด ข้อบังคับ (หรือมีแต่บริษัท รปภ ไม่ทำ ไม่ทราบได้)
      ก็อย่างที่คุณหลวงเล่านั่นแหละขอรับ รปภ เห็นคุณหลวงขับรถมา เรียกน้า (แหม มันน่าตีจริงๆ)
      ถามอายุ ไม่ถึงก็ยังดันทุรังให้จอด แหม รู้กฏหมายดีซะด้วยสิเนี๊ยะ รปภ คนเนี๊ยะ น่ารักน่าชังเสียจริงๆ
      ผมเดาๆ เอาว่า หากเขาจำหน้าคุณหลวงไม่ได้ เขาก็น่าจะเพราะเขาเห็นคุณหลวงขับรถแพงๆ หวังอะไรก็ไม่รู้ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเรื่อยๆ ขอรับ
      เรื่องนี้กระผมเองก็คงปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะบริษัท รปภ เองก็มีปัญหาอยู่มากโข คงต้องจัดการกันหน่อยแล้วขอรับ
      แหมจริงๆ เชียว ถ้าเป็นลูกเป็นหลานจะเอาไม้ค้ำยันเคาะกระบาลซักโป๊ก
      ไอ้เรื่องผู้สูงอายุเนี๊ยะ ก็อีกเรื่องหนึ่ง กระผมขอเล่าให้คนเขาเข้าใจกันสักหน่อย
      อย่าคิดว่า อายุถึงตามกฏหมายแล้วก็ดันทุรังจอดได้นะขอรับ
      ที่จอดรถพิเศษมีไว้สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้ นั่นคือ “ผู้สูงอายุที่จำเป็น” ที่ร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว เดินไกลไม่ไหว
      ซึ่งก็เปรียบได้เท่ากับคนพิการ(ทางการเคลื่อนไหว) เท่านั้นนะขอรับ
      ส่วนผู้สูงอายุที่ยังปึ๋งปั๋ง ดึ๋งดั๋ง ยังวิ่งแข่งสี่คูณร้อยเมตรกับเด็กรุ่นหลานๆ ได้
      แล้วดันไปจอดนี่ ท่านๆ ก็ลองคิดดูสินะขอรับว่า
      .
  3. เจ้าหน้าที่รัฐฯ ไม่ดูแลและไม่บังคับใช้กฏหมาย (ทั้งๆ ที่ตัวเองมีอำนาจอยู่ในมือ)
    ครับคุณหลวง ปัญหานี้คงไม่ต้องพูดยืดยาว เดี๋ยวลูกเด็กเล็กแดงจะหลับกันไปเสียก่อน
    คุณหลวงก็ดูแล้วกันว่า ทำไม่ห้างที่สร้างมากันด้วยราคาสูงลิบลิ่ว ยี่สิบ สามสิบ ร้อยล้านพันล้าน
    สร้างมาแล้ว แต่จำนวนที่จอดรถคนพิการไม่ครบตามกฏหมายกำหนด
    ไม่ก็ด้านหน้าไม่มีทางลาดให้คนพิการขึ้น ส่วนห้องน้ำมีบ้าง ไม่มีบ้าง ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ขาดมาตรฐานที่ดีบ้าง
    คุณหลวงสงสัยเหมือนผมไหมขอรับว่า ทำไมห้างเหล่านี้ถึงเปิดได้กันทั่วบ้านทั่วเมืองขอรับ?

อยากเล่าให้คุณหลวงและเพื่อนบ้านคุณหลวงให้ฟังว่า
ปัญหาพวกนี้ในข้อ ๑ กระผมมีฐานะเป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการร่วมกับผู้แทนคนพิการจากหลายๆ องค์กร กำลังทำงานร่วมกับภาครัฐฯ แก้ไขปัญหาในระดับนโยบายกันอยู่
ส่วนปัญหาที่ ๒ และที่ ๓​ นี่ผมและคณะทนายที่ปรึกษา กำลังหารือพูดคุยกันอย่างเข้มข้นอยู่ว่าจะต้องจัดหนักกันซักหน่อยแล้วกระมัง
ทำงานรนรงค์กันมาก็เหนื่อยเหลือเกิน เลือกทางลัดบ้างก็น่าจะดีนะ ว่าไหมครับคุณหลวง?

กระผมทราบว่าคุณหลวงเองก็เป็นคนที่มีคุณภาพ และได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองมากมาย คงรับทราบและเข้าใจสิ่งพวกนี้ได้ไม่ยาก
กระผมเองก็เป็นแฟนคุณหลวงฟังเพลงมาตั้งแต่เด็กจนแก่ป่านนี้ เพลงเมื่อไหร่ก็ยังไพเราะเพราะพริ้งไม่เคยเบื่อ

สิ่งที่กระผมได้ชี้แจงอยากขอความกรุณาคุณหลวงโปรดอ่านโดยละเอียด พิจารณาดู หากมีข้อสงสัยอย่างไรก็ติดต่อสอบถามกระผมได้ตลอดเวลา
ขออนุญาติชวนคุณหลวงไปเที่ยวห้าง เดี๋ยวผมจะขับรถไปรับ-ไปส่งคุณหลวงเอง จะได้ไปดูปัญหาให้เห็นกับตาด้วยกันนะขอรับ

สยามประเทศนั้นจะเจริญรุ่งเรืองได้ คนในสังคมต้องมีสำนึกสาธารณะเพิ่มขึ้นทุกวัน
บ้านเมืองเรานั้นมีต้องกฏเกณฑ์และต้องยึดมั่นทำตาม ร่วมกันช่วยกันดูแล,
ขอฝากคุณหลวงช่วยกันรนณรงค์ บอกแม่ประไพ บอกต่อๆ เพื่อนบ้านและคนอื่นๆ ด้วยนะขอรับ

ขอฝากถึงลูกเพจทุกๆ ท่านก่อนแชร์ เราไม่ได้กำลังต่อจะว่าหรือโจมตีคุณหลวงนิติพงษ์ท่านนะขอรับ
กระผมเพียงแต่อยากให้ข้อมูล ให้ความเข้าใจ เพื่อให้คุณหลวงและเพื่อนบ้านคุณหลวงได้เข้าใจอย่างแท้จริง
และคุณหลวงเองท่านก็น่ารัก รับผิดชอบส่วนที่ตัวเองกระทำไป ได้อย่างน่าชื่นชม ก่อนหน้าที่กระผมจะเขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ไปแล้ว
หน้าที่ของเรานั้นคือทำให้สังคมเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้
นี่คือสิ่งที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับสังคมและประเทศชาตินะขอรับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง

หลวงมนินทรา (อ่านว่า มะ-นิน-ทะ-รา)

– – –
ติดตามเรา:
– Facebook : https://www.facebook.com/AccessibilityIsFreedom
– Web : https://www.accessibilityisfreedom.org
– Twitter : https://twitter.com/sabaimage
– YouTube : https://www.youtube.com/sabaimagetv

ประเด็นต่างๆ:
– สำนึกสาธารณะ : https://goo.gl/d6GmEo
– ปัญหาที่จอดรถคนพิการ : http://goo.gl/F2F1FA

– ร่วมสนับสนุนงาน : http://goo.gl/i02iPu
– – –

 

About saba

เราจะเป็น #หนึ่งพลัง ร่วมเปลี่ยนแปลงสังคม We will be THE ONE who change our country[มานิตย์ ซาบะ อินทร์พิมพ์][Manit Saba Intharapim][マニト・サバ・インサラピム]