ค่าโดยสารที่เข้าถึงได้

Accessibility หรือ “การเข้าถึง” เป็นประเด็นที่ถูกจับตามองในยุคนี้อย่างมาก ไม่ใช่เฉพาะกับขนส่งมวลชน แต่รวมถึงพื้นที่เอกชน สถานที่สาธารณะ แต่แทบจะทุกที่เลยก็ว่าได้ โดยต้องไม่มีอุปสรรคสิ่งกีดขวาง (barrier-free) ทุกคนต้องเข้าถึงได้

แต่เวลาเราพูดถึงการ ‘เข้าถึงได้’ เรามักหมายถึง เข้าถึงได้ทาง “กายภาพ” คือมีทางลาด มีลิฟต์ มีที่จอดรถผู้พิการ มีห้องน้ำผู้พิการ ต่างๆ นานา

แต่ในบริบทของขนส่งมวลชน การเข้าถึงได้ทางกายภาพอย่างเดียวนั้นไม่พอ เพราะต้องเข้าถึงได้ทางการเงินด้วย! (financially accessible) กล่าวคือ เป็นราคาค่าโดยสารที่คนส่วนใหญ่ในสังคมสามารถจ่ายได้ในชีวิตประจำวัน (โดยไม่กระทบต่อค่าครองชีพมากนัก)

แม้ว่าลอนดอนจะขึ้นชื่อเรื่องค่าครองชีพที่สูงลิบลิ่ว แต่กลับเป็นตัวอย่างที่ดีของขนส่งมวลชนที่เข้าถึงทางการเงินได้ (แม้ยังไม่ทางกายภาพทั้งหมดก็ตาม) ราคาค่ารถเมล์แดง 2 ชั้นในลอนดอนอยู่ที่ £1.50 (55 บาท) ตลอดสาย ราคานี้ฟังดูเหมือนแพงเมื่อเทียบกับรถเมล์ไทย แต่ค่าแรงขั้นต่ำต่อชั่วโมงในอังกฤษอยู่ที่ราว £8 (จริงๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราอาศัยอยู่ที่ไหน+อายุเท่าไรด้วย) นั่นหมายความว่า ค่ารถเมล์ลอนดอนคิดเป็นน้อยกว่า 20% ของค่าแรงขั้นต่ำต่อชม.

และถ้าใช้บัตร Oyster (ซึ่งทุกคนใช้กันอยู่แล้ว) นั่งรถไฟใต้ดินในลอนดอน ราคาอยู่ที่ £2.40 ซึ่งคิดเป็น 30% ของค่าแรงขั้นต่ำต่อชม.เท่านั้น ราคาเหล่านี้เข้าถึงได้ทางการเงินไม่เฉพาะกับชนชั้นกลาง แต่รวมถึงคนรายได้น้อยด้วย…คนรวยยิ่งไม่ต้องพูดถึง

เมืองใหญ่ทั่วโลกก็เป็นตัวอย่างที่ดีเช่นกัน ราคาค่าโดยสารรถไฟใต้ดินโตเกียวคิดเป็น 25% ของค่าแรงขั้นต่ำต่อชม. / นิวยอร์ค 20%, ปารีส 19%, ปักกิ่ง 35% ในขณะที่กรุงเทพ BTS คิดเป็น 93.75% MRT ขึ้นไปถึง 113% สมมติว่าตื่นมาพรุ่งนี้แล้วทุกอย่างเข้าถึงทางกายภาพได้แบบสมบูรณ์แบบ…แต่ยังคงราคาไว้เท่าเดิม เชื่อเลยว่าก็ยังมีกลุ่มคนจำนวนไม่น้อย (ซึ่งก็คือคนรายได้น้อย) จ่ายชิลๆ ไม่ไหวอยู่ดี พวกเขาก็ยังคงเลือกรูปแบบการเดินทางอื่นต่อไปอยู่ดี เช่น รถเมล์ (ซึ่งประสิทธิภาพแย่กว่ามาก และยังคิดเป็นถึง 38% ของค่าแรงขั้นต่ำต่อชม.)

ดังนั้น Accessibility “การเข้าถึงได้” ต้องมาพร้อมการเข้าถึงได้ทางด้าน “กายภาพ และ การเงิน” เสมอ หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ก็อาจเรียกในภาพรวมว่า “ยังเข้าถึงไม่ได้” (inaccessible) ต่อไปอยู่ดี

About saba

เราจะเป็น #หนึ่งพลัง ร่วมเปลี่ยนแปลงสังคม We will be THE ONE who change our country[มานิตย์ ซาบะ อินทร์พิมพ์][Manit Saba Intharapim][マニト・サバ・インサラピム]