“ขอสงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาการรับสมัครสำหรับนักวิ่งวีลแชร์และผู้พิการทางสายตา”

ภาพ ซาบะกำลังวิ่งพร้อมๆ กับนักวิ่งคนอื่นๆ
**ภาพงานวิ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขียน

ผม ถูกปฏิเสธงานวิ่งไปแล้ว 3 งานครับ…
งานแรก : ให้เหตุผล ความปลอดภัย ยังไม่พร้อมดูแล
งานสอง : ให้เหตุผล สภาพสนาม & จำนวนนักวิ่ง เกรงจะเกิดปัญหา (คุยกับผู้จัดแล้ว รับทราบเหตุผล จะมีการทำงานร่วมกันเพิ่มเติมครับ)
งามสาม : ไม่ได้สอบถามครับ ผู้จัดทีมเดียวกับงานแรก เขียนประกาศไว้ตามที่จั่วหัวครับ

จริงๆ ตั้งแต่ผมเริ่มวิ่งเมื่อเกือบๆ 10ปีที่แล้ว ตั้งใจที่สุดคือถอดหัวโขนทุกอย่างออก ตั้งใจเป็นนักวิ่งธรรมดาหนึ่งคนเท่านั้น
ตลอดมาผมได้ข่าวปฏิเสธไม่รับสมัครงานวิ่งจากน้องๆ และในที่สุดผมก็เจอด้วยตัวเอง
ผมทิ้งเรื่องนี้ไปนาน… แล้วปีนี้หาข้อมูลเพิ่ม และก็เจออีก!
เหมือนทุกๆ เรื่อง ยิ่งไม่พูด ปล่อยให้ผ่านเลยไป ความเสียหายจะยิ่งเกิดขึ้น…

สังคมไทย คนพิการ มักถูกใช้เป็นเครื่องเยียวยา เมื่อต้องการเยียวยาจิตใจ เมื่อต้องการกำลังใจ
ในขณะที่อีกด้าน คนพิการ ก็ถูกสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัว รวมถึงเจตคติของคนรอบๆ ตัว กดให้เป็นคนพิการ เป็นตัวที่น่าสงสารและเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจตลอดไป…

ในขณะที่ตัวคนพิการเองพยายามทุกวิถีทางที่จะพังทะลายข้อจำกัด ก้าวข้ามความบกพร่องของตัวเอง พยายามใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ อย่างคนธรรมดาทั่วไป…

ผมขอใช้ตัวเองเป็นตัวอย่าง ผมทำอย่างนี้มาตลอดชีวิต ในทุกๆ เรื่องครับ
เรื่องวิ่งก็เช่นกัน ผมซ้อมในสวนสาธารณะนานหลายปีมาก และในที่สุดก็แก้ปัญหาต่างๆ ได้หมดและมั่นใจ ออกไปร่วมแข่งขันได้
ผมวิ่งระยะมาราธอนในประเทศไทยมาแล้ว 5สนาม, โครตดีใจ โครตภูมิใจ โครตมีความสุข ที่ตัวเองออกไปฟัดกับนักวิ่งคนอื่นๆ ได้แบบไม่ต้องมีข้อแม้ใดๆ

สภาพสนามโหดและทีมผู้จัดไม่พร้อมที่จะดูแล ผมรับฟังและเข้าใจนะครับ, แต่ต้องไม่ลืมเช่นกันว่า นี่คือการกีดกันและแยกให้คนพิการไปอยู่ในวงกลมของคนพิการ นี่คือสิ่งที่กดให้คนพิการเป็นคนพิการตลอดไป เราต้องช่วยกันลดช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำ

“พี่… ไอ้คนที่มันนั่งรถเข็นเนี๊ยะ ถ้ามันออกไปร่วมแข่งขันได้ และโดยเฉพาะระยะ 42K+ นี่แม่งแสดงว่ามันไม่ใช่คนธรรมดาแล้ว ต้องส่งเสริม สนับสนุน ต้องภูมิใจสิพี่” –ผมเพิ่งพูดกับผู้จัดหนึ่งท่านไว้

ขอเขียนเพื่อบันทึกไว้เพื่อทำงานต่อเนื่อง ไม่ดราม่านะครับ
สนามที่ผมสนใจลงแข่งขันและปฏิเสธ ผมจะแวะไปดูเพื่อประเมินข้อมูลในทุกๆ ด้านครับ

About saba

เราจะเป็น #หนึ่งพลัง ร่วมเปลี่ยนแปลงสังคม We will be THE ONE who change our country[มานิตย์ ซาบะ อินทร์พิมพ์][Manit Saba Intharapim][マニト・サバ・インサラピム]