ต้องเดินทาง
โดยระบบขนส่ง
สาธารณะ
เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT นี่แหละครับ
ปกติแล้วผู้ให้บริการมีการจัดการ ดูแลผู้โดยสาร “คนพิเศษ” ให้อย่างดีครับ
ที่ต้องดูแลอาจจะเพราะด้วยตัวระบบเอง “ยังไม่สามารถเข้าถึงได้ 100%”
เช่น ลิฟท์บางตัวต้องล๊อคไว้ จะเปิดเฉพาะผู้โดยสารพิเศษเท่านั้น (เพราะออกแบบลิฟท์มาขัดกับการให้บริการ)
หรืออาจจะเพราะด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร (อันนี้ต้องให้ credit อย่างมากๆ)แหม ไหนๆ ก็พูดเรื่องนี้
ผมอดไม่ได้ที่อยากเปรียบเทียบให้ฟัง:
เชื่อไหมครับ ผมไปใช้ชีวิตอยู่สิงค์โปร
แทบ 100% ระบบการเดินรถไฟฟ้า เขาไม่มี จนท มาให้บริการเลย
จะมีก็ จนท ที่ประจำอยู่ที่ office ตรงแตะตั๋ว
ทุกๆ อย่างดำเนินไปอย่างอัตโนมัติ และเป็นธรรมชาติ
ใครจะเดินทางไปไหน ก็เข้าสถานี ขึ้น ลงรถและออกจากสถานี
ด้วยตัวเอง ไปกันอย่างเงียบๆมองในแง่ความปลอดภัยและอุ่นใจ ผมชอบบ้านเรามากกว่า
แต่มองในแง่การมีชีวิตที่อิสระบ้านเราสอบตกครับ
เอาล่ะกลับมาเรื่องของเราต่อ
วันก่อนผมเดินทางผ่านไปใช้ MRT สถานีเพชรบุรี
เที่ยวกลับมีเจ้าหน้าที่ รปภ มาดูแลและเดินส่งเพื่อเข้ารถตามปกติ
แต่เห็นอาการน้องเก้ๆ กังๆ ครับ
ถามไถ่ ทราบว่า เพิ่งมาจากใต้ สวนยางไม่ไหวเลย เลยมาทำงานที่เมืองกรุง
เพิ่งทำ รปภ ที่ MRT นี่เพียง 1 เดือนครับ
การดูแลคนพิการแต่ละประเภท แต่ละคนนั้นต่างกัน
และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง
และบ้านเราด้อยเรื่องการให้บริการ
เราจะพบปัญหาเกิดขึ้นบ่อยๆ
เจอหน้าใสๆ แหมขอรับน้องหน่อย ^^
ผมถามไปว่า “น้องครับ รู้มั้ยว่า ผดส ที่นั่งรถเข็นมาแบบพี่นี่ ต้องขึ้นจุดไหน…”
น้องสอบตกตั้งแต่คำถามแรก จบเลย 555+
เลยต้องเล่าให้ฟังให้เข้าใจชัดๆ ให้รู้ว่า
MRT มีป้ายรูป wheelchair แปะอยู่ซึ่งเป็นจุดต่อระหว่างตู้รถ
ขบวนรถเข้ามาจะจอดตรงเครื่องหมายนี้พอดี
หากขึ้นไปผิดจุดแล้วจะไม่มีที่อยู่ และจะเกะกะชาวบ้านเขาได้
แล้วก็อดเล่าต่อให้น้องฟังไม่ได้ว่า…
ส่วนรถลอยฟ้ามหานคร BTS นั่นไม่มีเครื่องหมายไอ้ wheelchair นี่หรอกนะ
และส่วนใหญ่ จนท รปภ ก็ไม่รู้เรื่องเสียด้วยสิ
เลยต้องขึ้นแบบตามบุญ ตามกรรมกันไป
น้องน่ารักครับ คิดว่า ครั้งต่อไปเจอ ผดส พิเศษน่าจะดูแลได้ดีขึ้น
แหมเดี๋ยวคราวหน้าแวะไป ถ้าเจอจะสอบทวนซ้ำอีกหน่อยดีกว่า