Accessibility Is Freedom เข้าถึงและเท่าเทียม | Accessible and Equal
การขึ้น-ลงรถไฟฟ้านั้น ทุกๆ ระบบจะมีช่องว่างมากน้อยต่างกัน นอกจากช่องว่างแล้วบางจุดมีความต่างของระดับด้วย
ช่องว่างนี้ทุกคนไม่สะดวกนัก คนทั่วไปก้าวข้ามได้สบายมาก แต่กลุ่มคนที่ใช้รถเข็น โดยเฉพาะคนพิการรุนแรงช่วยเหลือตัวเองได้น้อยและต้องใช้รถเข็นไฟฟ้ามีน้ำหนักมาก การเดินทางนั้นมีความเสี่ยงสูงว่ากลุ่มคนอื่นๆ มาก
ตกลงไปในช่องว่าง เรื่องใหญ่แน่นอนครับ!
ที่ประเทศญี่ปุ่นมีการใช้งานทางลาดแบบพกพาแบบนี้มานานมากๆ แล้ว
คนพิการหลายๆ ท่าน รวมถึงเราเองก็ไปเห็นหลายๆ ครั้ง และยังได้ไปทดสอบใช้งานด้วย (อ้างอิง https://www.accessibilityisfreedom.org/สิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานและการให้บริการที่ยอดเยี่ยมของระบบรถไฟฟ้าญี่ปุ่น/) เราช่วยกันผลักดันให้ประเทศไทยใช้อุปกรณ์เหล่านี้มานาน ผมเองก็ดันกันมาหลายปี
ก่อนหน้านี้แอร์พอร์ตเรลลิ้งเปิดตัวและใช้งานไปแล้ว
และในที่สุดแล้ววันนี้ถือเป็นวันแรกที่ผู้ให้บริการระบบรถไฟฟ้า BTS นำมาทดสอบการให้บริการ สุดสวิงริงโก้ ดีงามพระรามแปดจ้าาาา
จากการทดลองใช้วันนี้ได้รับข้อมูลมาว่า มีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม และเราได้ลองวัดความกว้างได้ 90 เซนติเมตร ถือว่าดีมากๆ แล้วครับ
แต่ผมเสนอผู้บริหารบีทีเอสว่า “ขอ 120 เซนติเมตร นะครับ, ที่มีดีอยู่แล้ว ไหนๆ จะต้องสั่งผลิต เพิ่มความกว้างอีกหน่อย เผื่อมีรถเข็นที่กว้างกว่ามา เราจะโดนบ่นเอา ไหนๆ ก็ไหนๆ จัดให้ดีสุดๆ ทีเดียว จบทีเดียวไปเลย…” และขอให้มีครบถ้วนทุกสถานีและเปิดให้บริการโดยเร็วที่สุดครับ
ต่อไปทั้งการขึ้นและลงจะเกิดความปลอดภัยมากกว่า ลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่า ผมพูดเสมอว่า ค่าใช้จ่ายและค่าบริการที่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ผลและมูลค่ามหาศาลของมันจะย้อนกลับไปหาคนที่ทำ สิ่งนี้มีผลทั้งต่อสังคมและตัวคนทำอย่างแน่นอนครับ!!
กราบขอบพระคุณ BTS เป็นอย่างสูง รอว่าเมื่อไหร่ BEM/MRT จะจัดด้วยครับ!
